ในปี 2025 แนวโน้มการออกแบบตกแต่งภายในได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด วัสดุไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ตกแต่งหรือใช้งานเท่านั้นอีกต่อไป แต่ยังเป็นตัวแทนของแนวคิด วิถีชีวิต และภาพลักษณ์ของผู้ใช้งานหรือแบรนด์ได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุธรรมชาติ วัสดุรีไซเคิล หรือวัสดุล้ำยุค ต่างก็มีบทบาทในการสร้างอัตลักษณ์ให้กับพื้นที่อย่างชัดเจน บทความนี้ RISE DESIGN STUDIO จะพาไปรู้จักกับ 7 วัสดุที่ได้รับความนิยมสูงในการออกแบบตกแต่งภายในปี 2025 ที่ทั้งตอบโจทย์ด้านฟังก์ชัน ความสวยงาม และการสื่อสารภาพลักษณ์ได้อย่างทรงพลัง
- แผ่นวัสดุธรรมชาติ
วัสดุธรรมชาติเช่นไม้จริง หินอ่อน หินแกรนิต หรือหินเทียมที่ผลิตจากแร่ธรรมชาติ ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถถ่ายทอดความงามจากธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง วัสดุกลุ่มนี้ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น สงบ และหรูหราในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะวัสดุที่นิยมใช้ในงานออกแบบตกแต่งภายในสไตล์ Classic Contemporary อย่างการเลือกใช้ผนังไม้โอ๊ค พื้นไม้เนื้อแข็ง หรือท็อปเคาน์เตอร์หินอ่อนในห้องน้ำ ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของความใส่ใจในรายละเอียด ความพิถีพิถัน และรสนิยมที่เหนือระดับ เหมาะกับทั้งบ้านพักอาศัย โรงแรม หรืออาคารสำนักงานที่ต้องการสะท้อนความคลาสสิกเหนือกาลเวลา
- วัสดุโปร่งแสง
วัสดุโปร่งแสง โดยเฉพาะกระจกพ่นทราย แผ่นอะคริลิก หรือโพลีคาร์บอเนต เป็นอีกหนึ่งกลุ่มวัสดุที่มาแรงในปีนี้ ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่ง ให้แสงธรรมชาติไหลผ่านได้บางส่วน โดยไม่ลดทอนความเป็นส่วนตัว การเลือกใช้วัสดุโปร่งแสงกับฉากกั้นห้องหรือผนังตกแต่ง จะช่วยให้พื้นที่ดูทันสมัย โปร่งเบา และเปิดรับความสว่างมากขึ้น อีกทั้งยังสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือเจ้าของพื้นที่ว่าเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและความคิดสร้างสรรค์ในการใช้พื้นที่ ตัวอย่างเช่น ห้องประชุมแบบ semi-open หรือโถงต้อนรับในสำนักงานดีไซน์ใหม่ ๆ ที่ใช้แผ่นโปร่งแสงในการแบ่งสเปซอย่างมีสไตล์
- คอร์ก
คอร์กเป็นวัสดุธรรมชาติที่ผลิตจากเปลือกต้นโอ๊ค ซึ่งนอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องการซับเสียง น้ำหนักเบา และให้สัมผัสที่นุ่มนวล วัสดุชนิดนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ออกแบบตกแต่งภายในที่ให้ความสำคัญกับแนวคิดรักษ์โลกและการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัย เนื่องจากคอร์กช่วยเสริมภาพลักษณ์ของความอบอุ่น ความเป็นธรรมชาติ และความคิดสร้างสรรค์ เหมาะกับงานออกแบบตกแต่งภายในพื้นที่อย่างห้องเด็ก ห้องทำงาน หรือ Co-working space ที่ต้องการความเงียบสงบ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือผนังคอร์กในห้องประชุม ที่ช่วยดูดซับเสียงรบกวนและเพิ่มความน่าสนใจให้กับดีไซน์ของผนัง
- เส้นใยธรรมชาติ
วัสดุจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ป่าน ปอ หวาย หญ้าแฝก ผ้าไหม หรือผ้ากำมะหยี่กำลังกลับมาเป็นที่นิยมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ออกแบบตกแต่งภายในที่ต้องการสร้างบรรยากาศเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความพิถีพิถัน เส้นใยเหล่านี้มักถูกนำมาใช้ในของตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นพรม โคมไฟ ผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์
- แผ่นวัสดุรีไซเคิล
ในยุคที่ความยั่งยืน ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็น วัสดุรีไซเคิลจึงได้รับความสนใจจากทั้งผู้ออกแบบตกแต่งภายในและผู้บริโภคที่ต้องการอนุรักษ์โลก ไม่ว่าจะเป็นพลาสติกรีไซเคิล เศษแก้วที่นำมาขึ้นรูปใหม่ หรือไม้รีเคลมจากอาคารเก่า เนื่องจากวัสดุรีไซเคิลไม่เพียงแต่จะในงานออกแบบตกแต่งภายในเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของการเป็นแบรนด์หรือเจ้าของพื้นที่ที่มีจิตสำนึกต่อโลก ขณะเดียวกันก็แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบที่ไม่จำกัดอยู่ในกรอบ ตัวอย่างการใช้งานที่เห็นได้บ่อย คือพื้นหรือผนังที่ทำจากเศษวัสดุหลากสี เฟอร์นิเจอร์ที่นำไม้เก่ามาตกแต่งใหม่ หรือเคาน์เตอร์ร้านค้าที่ใช้กระจกรีไซเคิลขึ้นรูปให้ดูแปลกตา
- คอนกรีตเปลือยและอิฐดิบ
วัสดุดิบอย่างคอนกรีตเปลือยและอิฐโชว์แนว ยังคงเป็นที่นิยมในปี 2025 โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่และนักออกแบบตกแต่งภายในที่ชื่นชอบความเท่ ความจริงใจ และเสน่ห์จากวัสดุแท้ ๆ ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งมากนัก พื้นผิวที่หยาบกร้านแต่เปี่ยมด้วยรายละเอียดของวัสดุกลุ่มนี้ สื่อถึงความเป็นอิสระ กล้าแตกต่าง และไม่พยายามจะแต่งให้เกินความเป็นจริง ตัวอย่างที่ใช้บ่อย เช่น ผนังอิฐแดงในร้านกาแฟ หรือพื้นปูนเปลือยในห้องนั่งเล่นที่ให้ความรู้สึกดิบแต่สบายตา เหมาะกับสไตล์ Industrial Loft หรือ Modern Rustic
- โลหะสเตนเลสขัดเงา
โลหะสเตนเลสขัดเงาเป็นวัสดุที่ให้ภาพลักษณ์ของความล้ำสมัย ความแม่นยำ และความหรูหราในแบบโมเดิร์น ด้วยผิวที่สะท้อนแสงได้ดี วัสดุนี้จึงช่วยให้พื้นที่ดูกว้าง โปร่ง และสว่างมากยิ่งขึ้น สเตนเลสขัดเงานิยมใช้ในครัวสมัยใหม่ ห้องน้ำ หรือพื้นที่จัดแสดงสินค้าระดับพรีเมียม เช่น เคาน์เตอร์ในโชว์รูม หรือผนังตกแต่งในร้านแฟชั่นระดับไฮเอนด์ วัสดุนี้เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการสื่อความเป็นเทคโนโลยี ความสะอาด และความหรูหราที่ไม่จำเป็นต้องใช้สีทองหรือวัสดุฟุ่มเฟือย
ทุกคนจะเห็นได้ว่าเทรนด์วัสดุในงานออกแบบตกแต่งภายในปี 2025 นั้นการเลือกวัสดุในการออกแบบตกแต่งภายในไม่ใช่แค่เรื่องของสไตล์อีกต่อไป แต่คือการเล่าเรื่องและสื่อสารตัวตนของผู้ใช้งานหรือแบรนด์ได้อย่างชัดเจน วัสดุทั้ง 7 ประเภทนี้ ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ในด้านความงามและฟังก์ชัน แต่ยังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในแนวคิดด้านการอยู่อาศัยและการทำงานของคนยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง
ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบ้าน นักออกแบบ หรือเจ้าของแบรนด์ การเลือกวัสดุที่เหมาะสม จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ และเติมเต็มประสบการณ์ของผู้อยู่อาศัยได้อย่างมีคุณค่า สำหรับใครที่ต้องการผู้ช่วยมืออาชีพในงานออกแบบตกแต่งภายในหรือการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพเหมาะกับสไตล์ที่ต้องการ สามารถปรึกษา RISE DESIGN STUDIO ได้ เรายินดีให้บริการทุกท่าน สนใจสอบถามเพิ่มเติม หรือจะนัดหมายให้ดีไซน์เนอร์เข้าไปดูหน้างาน เพื่อพูดคุยถึงความต้องการ ออกแบบและประเมินราคาก็ได้ โทร. 084-234-6888 หรือไลน์ @risedesignstudio
