แนวทางการออกแบบภายในออฟฟิศยุคใหม่ ดีต่อองค์กรและพนักงานอย่างยั่งยืน

เราทุกคนต่างอยู่ในยุคที่การทำงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ออฟฟิศหรือพื้นที่ทำงานที่ดีไม่ใช่แค่ตอบโจทย์ฟังก์ชัน แต่ต้องสะท้อนความเข้าใจมนุษย์ เพราะออฟฟิศที่ออกแบบดี จะช่วยลดความเครียด กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ สื่อสารตัวตนองค์กร และที่สำคัญ ทำให้คนอยากกลับมาทำงานในทุก ๆ วัน ใครที่ไม่อยากให้ออฟฟิศของคุณล้าสมัย หรือมีบรรยากาศภายในออฟฟิศที่พนักงานเห็นแล้วต้องหมดใจ บทความนี้ RISE DESIGN STUDIO จะพาคุณสำรวจแนวทางการออกแบบภายในออฟฟิศยุคใหม่ หากคุณกำลังคิดจะรีโนเวท ปรับเปลี่ยน หรือเริ่มต้นออฟฟิศใหม่ บทความนี้คือจุดเริ่มต้นที่คุณไม่ควรมองข้าม

white office interior design
  • ปลดล็อกความคิด กระตุ้นพลังงานด้วยพื้นที่ทำงานสุดล้ำ

ออฟฟิศยุคใหม่ไม่ควรจำกัดความคิดสร้างสรรค์อยู่แค่ที่โต๊ะสี่เหลี่ยมและผนังสีขาว เพราะพื้นที่ทำงานมีผลต่ออารมณ์และไอเดียอย่างมาก ลองจินตนาการดูว่าถ้าพนักงานต้องนั่งทำงานในที่เดิมทุกวัน แบบเดิมทุกวัน ความคิดใหม่ ๆ คงไม่เกิดง่ายนัก การออกแบบภายในออฟฟิศยุคใหม่ จึงต้องมีความยืดหยุ่นมากขึ้น มีโซน coworking พื้นที่เปิดโล่ง (open space) มีมุมคิดงานส่วนตัว หรือแม้แต่โซฟานั่งสบาย ๆ ที่ช่วยให้คนทำงานเลือกใช้พื้นที่ได้ตามอารมณ์และภารกิจในแต่ละวัน วิธีนี้จะทำให้พนักงานรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของงาน และสร้างบรรยากาศที่สนับสนุนการคิดเชิงรุก

  • เติมธรรมชาติ สร้างแรงบันดาลใจ

ต้นไม้ แสงแดด และอากาศบริสุทธิ์ไม่ใช่แค่ของตกแต่ง แต่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเติมพลังให้กับคนทำงาน หลายงานวิจัยชี้ว่า พื้นที่สำนักงานที่มีองค์ประกอบจากธรรมชาติ อย่างกระถางต้นไม้ ผนังไม้จริง หรือหน้าต่างที่รับแสงธรรมชาติ สามารถช่วยลดความเครียด เพิ่มสมาธิ และทำให้พนักงานมีความสุขมากขึ้นได้จริง จึงไม่แปลกที่เรามักจะเห็นงานออกแบบภายในออฟฟิศใหม่ ๆ จะมีมุมธรรมชาติให้พนักงานได้รู้สึกผ่อนคลาย และพักสมองสร้างแรงบันดาลใจกันไม่มากก็น้อย

office interior design with meeting room
  • ห้องประชุมหรือห้องส่วนตัวต้องมี

แม้ออฟฟิศแบบเปิดจะช่วยให้การสื่อสารในทีมหรือระหว่างพนักงานในองค์กรลื่นไหล แต่ก็มีหลายสถานการณ์ที่พนักงานต่างต้องการพื้นที่ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการประชุมแบบจริงจัง การคุยงานกับลูกค้า หรือการโฟกัสงานสำคัญโดยไม่ถูกรบกวน ทุกออฟฟิศจึงควรมีพื้นที่ส่วนตัวเหล่านี้รองรับด้วย โดยห้องประชุมที่ออกแบบดีควรมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รองรับทั้งการสนทนาแบบกลุ่มย่อยและการประชุมใหญ่พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้งหน้าจอ ระบบเสียง และกล้องประชุมออนไลน์ ในขณะเดียวกัน อาจมี phone booth หรือห้องเงียบสำหรับคอลล์งานแบบส่วนตัว เพื่อให้คนทำงานมีทางเลือกที่หลากหลายในการใช้งานพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ใส่ใจสุขภาพ ออกแบบภายในตามหลักสรีรศาสตร์

สุขภาพของพนักงานไม่ควรถูกละเลย โดยเฉพาะในออฟฟิศที่นั่งทำงานกันตลอดทั้งวัน ซึ่งการออกแบบภายในออฟฟิศมักรวมไปถึงการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับสรีระของคนวัยทำงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้สำนักงานที่รองรับแผ่นหลัง ปรับระดับได้ โต๊ะทำงานแบบยืนหรือนั่ง หรือการจัดวางหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตา ล้วนมีผลต่อความสบายของผู้ใช้งาน การออกแบบภายในแบบ Ergonomic Design ไม่ใช่แค่เรื่องฟังก์ชัน แต่คือการลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ เช่น อาการปวดหลัง ออฟฟิศซินโดรม หรือความเมื่อยล้าเรื้อรัง ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและความพึงพอใจในการทำงานในระยะยาว

office interior design
  • รู้จักความต้องการในการใช้พื้นที่

ไม่มีออฟฟิศแบบไหนที่เหมาะกับทุกองค์กร การออกแบบภายในออฟฟิศควรเริ่มจากการรู้จักตัวเอง ว่าองค์กรของคุณทำงานในลักษณะใด ต้องการพื้นที่ใช้สอยแบบไหน เช่น ทีมขายอาจต้องการโต๊ะที่เคลื่อนย้ายง่ายสำหรับการเข้าออกบ่อย ส่วนทีมดีไซน์อาจต้องมีมุมครีเอทีฟสำหรับ brainstorm หรือจัดแสดงผลงาน ซึ่งการรู้จักวิธีใช้งานพื้นที่จริงของพนักงานแต่ละทีม จะช่วยให้การออกแบบภายในออฟฟิศตอบโจทย์ได้มากกว่าการเลือกแบบตกแต่งที่ดูดีเพียงภายนอก ออฟฟิศที่ออกแบบจากฟังก์ชันจริง จะสร้างความพึงพอใจให้คนทำงานในระยะยาวได้มากกว่าห้องที่สวยแต่ใช้งานไม่สะดวก

  • สำรวจความต้องการของคนภายในองค์กร

สุดท้ายแล้วการออกแบบภายในออฟฟิศที่ดีไม่ควรมาจากฝ่ายบริหารหรือทีมดีไซน์เพียงฝ่ายเดียว การ ฟังเสียงพนักงานนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง องค์กรควรเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการออกแบบ ไม่ว่าจะผ่านแบบสอบถาม เวิร์กช็อป หรือกระบวนการร่วมออกแบบ (co-creation) เพราะการรับฟังความคิดเห็น จะทำให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบเปิดกว้าง ออฟฟิศที่พนักงานรู้สึกว่าเป็นของตัวเอง จะช่วยให้เกิดความผูกพัน และความภูมิใจในสถานที่ทำงานอย่างแท้จริง

การออกแบบภายในออฟฟิศในยุคปัจจุบันไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงาม แต่คือการสร้างพื้นที่ที่ดีต่อคน และดีต่อองค์กร ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม การวางผังที่ยืดหยุ่น การใส่ใจธรรมชาติ หรือการฟังเสียงจากคนทำงานทุกคน ล้วนเป็นหัวใจของการออกแบบที่ยั่งยืน ถ้าคุณกำลังวางแผนปรับปรุงออฟฟิศ หรือเริ่มต้นออกแบบพื้นที่ทำงานใหม่ ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปใช้ดู แล้วคุณจะเห็นว่าพื้นที่เล็ก ๆ ที่ดีต่อใจพนักงานนั้น สร้างผลลัพธ์มหาศาลให้กับองค์กรได้จริง

สำหรับใครที่ต้องการผู้ช่วยออกแบบภายในออฟฟิศมืออาชีพ สามารถปรึกษา RISE DESIGN STUDIO ได้ เรายินดีให้บริการทุกท่าน สนใจสอบถามเพิ่มเติม หรือจะนัดหมายให้ดีไซน์เนอร์เข้าไปดูหน้างาน เพื่อพูดคุยถึงความต้องการ ออกแบบและประเมินราคาก็ได้ โทร. 084-234-6888 หรือไลน์ @risedesignstudio