บริการรับออกแบบตกแต่งภายในโรงแรม รีสอร์ท Rise Design Studio
การออกแบบตกแต่งภายในโรงแรมและรีสอร์ทไม่เพียงแต่เน้นไปที่ความหรูหราและสวยงาม แต่ยังต้องสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับแขกที่เข้าพัก ที่บริษัท Rise Design Studio เรามีความเชี่ยวชาญในการออกแบบตกแต่งภายใน โรงแรม รีสอร์ท และบิ้วอิน ทั้งห้องพัก ส่วนต้อนรับ ห้องอาหาร และพื้นที่บริการ โดยคำนึงถึงการใช้งานที่สะดวกสบายและตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้าพัก ทีมงานของเราทำงานด้วยความใส่ใจในรายละเอียดและมุ่งมั่นสร้างบรรยากาศที่ดีในการให้บริการโรงแรมและรีสอร์ท รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมและรีสอร์ท ทำให้ผู้เข้าพักได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจและสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการออกแบบภายใน โรงแรม รีสอร์ทที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เช่น การจัดระเบียบพื้นที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงานของพนักงานและทำให้ผู้เข้าพักได้รับบริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพ เราออกแบบพื้นที่ต่าง ๆ ให้สามารถรองรับการทำกิจกรรมหลายประเภทได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางที่ต้องรองรับแขกจำนวนมาก หรือห้องพักที่ต้องสร้างความสะดวกสบายและเป็นส่วนตัวให้กับแขกในทุก ๆ การพักผ่อน ทั้งยังคำนึงถึงความงามและการใช้งานที่คงทน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการสร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจตั้งแต่การเข้ามาในพื้นที่จนถึงการเช็คเอ้าท์ ทำให้แขกรู้สึกถึงความเป็นมิตรและความหรูหราที่เชื่อมโยงกับภาพลักษณ์ของโรงแรมหรือรีสอร์ทอย่างลงตัว
ความท้าทายและความต้องการของลูกค้า
ในการออกแบบตกแต่งภายในโรงแรม รีสอร์ท

การสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น
การออกแบบภายใน โรงแรม รีสอร์ทต้องสร้างความประทับใจตั้งแต่การเข้ามาถึงโรงแรมจนถึงห้องพัก โดยต้องคำนึงถึงประสบการณ์ที่แขกจะได้รับในแต่ละจุด เช่น การต้อนรับที่อบอุ่น ความหรูหราของห้องพัก และบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อน

การจัดการพื้นที่ที่แตกต่างกัน
โรงแรมและรีสอร์ทมักมีลักษณะพื้นที่ที่แตกต่างกัน เช่น โรงแรมในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด หรือรีสอร์ทริมทะเลที่มีพื้นที่กว้างขวาง การออกแบบต้องคำนึงถึงการจัดสรรพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้แขกรู้สึกสะดวกสบายและสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างเต็มที่

การออกแบบที่ทันสมัยและไม่ตกยุค
ลูกค้าต้องการการออกแบบที่ทันสมัย ซึ่งไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังต้องคำนึงถึงความทนทานของวัสดุที่ใช้ เช่น การเลือกวัสดุที่คงทนต่อการใช้งานและง่ายต่อการบำรุงรักษา การออกแบบหรืองานบิ้วอินต้องดูแลรักษาได้ง่ายและยังคงความสวยงามในระยะยาว

การสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อน
การออกแบบตกแต่งต้องสร้างบรรยากาศที่ทำให้แขกรู้สึกผ่อนคลายและพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางจนถึงห้องพัก โดยต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวของแขก

การสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับแขก
ทุกการออกแบบภายใน โรงแรม รีสอร์ทต้องสามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและตอบโจทย์ความต้องการของแขก โดยไม่เพียงแค่การออกแบบที่สวยงาม แต่ต้องมีฟังก์ชันที่รองรับการใช้งานที่สะดวกสบายในทุกมุม

พื้นที่และโซนในการออกแบบตกแต่งภายในโรงแรม รีสอร์ทที่สำคัญ
พื้นที่ส่วนต้อนรับ (Lobby)
โซนแรกที่แขกจะเห็นเมื่อเข้ามาในโรงแรม ควรเน้นการออกแบบที่สร้างความประทับใจแรกพบ การใช้วัสดุที่หรูหราและการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ลงตัวเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้การจัดแสงที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูด ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกอบอุ่นและสบายใจ
ห้องพัก (Guest Rooms)
ห้องพักเป็นหัวใจของโรงแรม การออกแบบควรเน้นไปที่การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สวยงาม และใช้งานได้ดี วัสดุที่เลือกใช้ต้องให้ความรู้สึกหรูหราแต่ไม่ทิ้งความสะดวกสบาย มีการวางผังเฟอร์นิเจอร์อย่างลงตัว
ห้องอาหารและบาร์ (Restaurant & Bar)
ห้องพักเป็นหัวใจของโรงแรม การออกแบบควรเน้นไปที่การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สวยงาม และใช้งานได้ดี วัสดุที่เลือกใช้ต้องให้ความรู้สึกหรูหราแต่ไม่ทิ้งความสะดวกสบาย มีการวางผังเฟอร์นิเจอร์อย่างลงตัว
ห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยง (Meeting & Banquet Rooms)
ห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยงต้องมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางได้ตามความต้องการของลูกค้า เช่น การจัดห้องประชุมสัมมนา งานเลี้ยงหรืองานประชุมเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันในแต่ละครั้ง
พื้นที่ส่วนกลาง (Public Areas)
ส่วนกลางของโรงแรมต้องออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน พบปะหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยยังคงรักษาบรรยากาศที่หรูหราและเป็นกันเอง
พื้นที่บริการ (Service Areas)
พื้นที่ที่สำคัญอย่างห้องครัว ห้องซักรีดหรือห้องจัดเก็บอุปกรณ์ ต้องออกแบบให้สามารถทำงานได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการทำงานได้อย่างสะดวก
ทางเดินและลิฟต์ (Corridors & Elevators)
ทางเดินและลิฟต์ควรออกแบบให้ดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ สร้างบรรยากาศที่ทำให้แขกรู้สึกผ่อนคลายเมื่อต้องเดินผ่านหรือใช้ลิฟต์
อื่น ๆ
พื้นที่สำหรับสันทนาการ (Recreational Areas)
พื้นที่เหล่านี้อาจรวมถึงฟิตเนส สระว่ายน้ำ หรือสปา การออกแบบต้องคำนึงถึงทั้งการใช้งานและบรรยากาศที่ช่วยเสริมสร้างการพักผ่อนและความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการ
พื้นที่กลางแจ้ง (Outdoor Areas)
โซนกลางแจ้ง เช่น สวน ลานกิจกรรม หรือระเบียงชมวิว ต้องได้รับการออกแบบเพื่อเชื่อมโยงธรรมชาติและสถาปัตยกรรมให้กลมกลืน สร้างความผ่อนคลายและเพิ่มคุณค่าให้กับสถานที่
ห้องเก็บสัมภาระ (Luggage Storage)
ห้องเก็บสัมภาระควรออกแบบให้สะดวกในการใช้งาน มีการจัดระเบียบอย่างดีและสามารถรองรับสัมภาระจำนวนมากได้อย่างปลอดภัย
ห้องสำหรับพนักงาน (Staff Rooms)
พื้นที่สำหรับพนักงาน เช่น ห้องพักผ่อน ห้องแต่งตัว หรือห้องทำงานของพนักงาน ต้องออกแบบให้สะดวกสบาย มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนองต่อความต้องการในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
สไตล์และไอเดียในการออกแบบตกแต่งภายใน
Minimal / Muji / Scandinavian
- Minimal: การออกแบบในสไตล์นี้เน้นความเรียบง่ายและการใช้วัสดุธรรมชาติที่มีความสะอาดตา เช่น การใช้สีขาว สีเทา และโทนสีเบจ เพื่อลดความยุ่งเหยิงของพื้นที่ และเพิ่มความรู้สึกสงบ
- Muji: ให้ความรู้สึกสงบและเป็นธรรมชาติเน้นการใช้วัสดุที่มีความเรียบง่าย เช่น ไม้ สีอ่อนๆ และการจัดวางที่สะอาดตา มักจะใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีการออกแบบเรียบ ๆ และฟังก์ชันการใช้งานที่ตรงไปตรงมา
- Scandinavian: การออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนจะเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้และหิน ตกแต่งด้วยสีโทนอ่อน เช่น ขาว น้ำตาล และเทา การจัดแสงให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มความอบอุ่นในพื้นที่
Modern / Modern Luxury / Modern Classic / Modern Contemporary
- Modern: การออกแบบที่เน้นเส้นสายที่สะอาดตา ใช้สีที่เรียบง่ายและการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เช่น คอนกรีต โลหะ หรือกระจก รวมถึงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ล้ำสมัย
- Modern Luxury: สไตล์นี้มุ่งเน้นไปที่ความหรูหราและการใช้วัสดุหายาก เช่น หินอ่อน ทองคำ ขนสัตว์ หรือหนัง อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานที่สมบูรณ์
- Modern Classic: ผสมผสานความทันสมัยและความคลาสสิก มีการใช้วัสดุหรูหรา เช่น ไม้เนื้อดี หินอ่อน และโลหะผสมที่ให้ความหรูหราแต่ยังคงความเป็นสมัยใหม่
- Modern Contemporary: การออกแบบที่เน้นการผสมผสานวัสดุและรูปทรงที่ทันสมัย อาจมีการใช้เทคโนโลยีและวัสดุใหม่ ๆ เช่น กระจกและเหล็ก เพื่อให้ได้ความรู้สึกที่สมัยใหม่และสวยงาม
Luxury / Modern Luxury
- Luxury: เน้นการใช้วัสดุหรูหราและการออกแบบที่พิถีพิถัน เช่น การใช้หินอ่อน ไม้เนื้อดี และผ้าไหมเฟอร์นิเจอร์ที่มีการตกแต่งที่สะท้อนถึงความหรูหรา และความสะดวกสบาย
- Modern Luxury: การออกแบบที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและความทันสมัย ใช้สีเข้มและวัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น เหล็กทอง หรือไม้ที่มีการตัดแต่งอย่างละเอียด
Classic / Modern Classic
- Classic: การออกแบบสไตล์คลาสสิกจะเน้นความหรูหราและประณีต มักจะใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น ไม้ทองคำ หินอ่อน รวมถึงการตกแต่งที่ละเอียดประณีต
- Modern Classic: การผสมผสานระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัย โดยการใช้เส้นสายที่สะอาดตา และการเลือกใช้วัสดุที่มีความทันสมัย เช่น โลหะ ผสมผสานกับวัสดุที่มีความหรูหรา

ขั้นตอนการให้บริการออกแบบตกแต่งภายในโรงแรม กับ Rise Design Studio
เพื่อให้การออกแบบตกแต่งภายในโรงแรม รีสอร์ทของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงตามความต้องการที่สุด Rise Design Studio ได้วางแผนขั้นตอนการทำงานอย่างชัดเจน ซึ่งครอบคลุมทั้งกระบวนการออกแบบและการก่อสร้าง จึงมั่นใจได้ว่าบริการของเราจะทำให้คุณพึงพอใจและตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

1. พูดคุยรายละเอียดและความต้องการของลูกค้า (Consultation)
เราเริ่มต้นด้วยการนัดหมายเพื่อพูดคุยกับลูกค้าเกี่ยวกับความต้องการด้านการออกแบบ ข้อมูลเกี่ยวกับสไตล์ที่ชอบ การใช้งานพื้นที่ และข้อจำกัดที่ต้องการให้คำนึงถึง การรับฟังในขั้นตอนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจวิสัยทัศน์ของลูกค้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

2. สร้างรูปแบบของงานและการสไตล์ในใจ (Concept & Initial Planning)
หลังจากได้รับข้อมูลจากการพูดคุย ทีมงานของเราจะทำการสร้างแนวคิดเบื้องต้นเพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพรวมของการออกแบบและการจัดวางภายใน เราจะนำเสนอแผนผังการใช้พื้นที่โดยละเอียดรวมถึงสไตล์ที่สอดคล้องกับที่ลูกค้าต้องการ

3. รับชมพื้นที่จริงหรือเริ่มงานดีไซน์ (Site Visit & Design Development)
ทีมออกแบบของเราจะเดินทางไปสำรวจพื้นที่จริงเพื่อทำการวัดขนาดและตรวจสอบรายละเอียดในสถานที่จริง หากเป็นกรณีที่ลูกค้าต้องการแก้ไขหรือปรับปรุงพื้นที่ ทีมของเราจะทำการออกแบบพื้นที่ให้สอดคล้องกับการใช้งานจริงอย่างมีประสิทธิภาพ

4. ออกใบเสนอราคา (Quotation)
เมื่อได้ทำการออกแบบเสร็จสิ้น เราจะจัดทำใบเสนอราคาสำหรับการตกแต่งภายใน ซึ่งจะรวมถึงรายละเอียดของวัสดุ การติดตั้ง และค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้าได้ทราบถึงขอบเขตของการลงทุนอย่างชัดเจน

5. เริ่มทำงานหลังจากยืนยันสัญญา (Execution after Contract Signing)
เมื่อการเสนอราคาและแผนงานได้รับการอนุมัติ ทีมของเราจะเริ่มงานออกแบบและก่อสร้างตามแผนที่วางไว้ หลังจากที่ลูกค้าทำการลงนามในสัญญา เราจะเริ่มกระบวนการติดตั้งและตกแต่งภายในอย่างเป็นระบบ

6. ระยะเวลาการทำงานและการส่งมอบงาน (Project Timeline & Handover)
โดยปกติแล้วการดำเนินงานทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 30-45 วัน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของงาน เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ เราจะทำการตรวจสอบขั้นสุดท้ายและส่งมอบงานให้ลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบ

ทำไมต้องใช้บริการออกแบบตกแต่งภายในบ้านกับ Rise Design Studio
ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ
ออกแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม
การใช้วัสดุคุณภาพสูง
การออกแบบที่เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ
การวางแผนและการจัดการโปรเจกต์ที่มีประสิทธิภาพ
บริการที่เป็นมิตรและเอาใจใส่
คำถามที่พบบ่อยสำหรับบริการออกแบบตกแต่งภายในโรงแรม
ต้องให้ข้อมูลอะไรบ้างก่อนเริ่มงานออกแบบตกแต่งภายใน โรงแรม รีสอร์ท?
ก่อนเริ่มงานออกแบบภายใน โรงแรม รีสอร์ท ลูกค้าควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของโรงแรมหรือรีสอร์ท เช่น ประเภท งบประมาณ ความต้องการของลูกค้า และธีมที่ต้องการ เพื่อให้ทีมงานสามารถออกแบบได้ตามความต้องการที่ชัดเจน
การออกแบบตกแต่งภายในโรงแรมจะใช้เวลานานเท่าไร?
เวลาที่ใช้ในการออกแบบขึ้นอยู่กับขนาดของโครงการ งานบิ้วอิน และความซับซ้อนของการออกแบบ โดยปกติแล้วกระบวนการออกแบบจะใช้เวลาประมาณ 30-45 วัน
เราเลือกสไตล์การออกแบบได้เองหรือไม่?
ลูกค้าสามารถเลือกสไตล์การออกแบบที่ต้องการได้ เราจะทำการปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายของโรงแรม
ลูกค้าจะได้อะไรจากการออกแบบตกแต่งภายในโรงแรมของ Rise Design Studio?
ลูกค้าจะได้รับการออกแบบที่มีความเป็นเอกลักษณ์และตอบโจทย์การใช้งานของโรงแรม โดยที่การออกแบบจะสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าและเพิ่มความน่าสนใจให้กับโรงแรม
ราคาการออกแบบตกแต่งภายในโรงแรมเป็นอย่างไร?
ราคาของการออกแบบตกแต่งภายในโรงแรมขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของโครงการ ซึ่งเราจะทำการเสนอราคาตามความต้องการและงบประมาณของลูกค้า
เราสามารถปรับแก้การออกแบบระหว่างการดำเนินการได้หรือไม่?
เรามีการสื่อสารที่ใกล้ชิดกับลูกค้าในทุกขั้นตอนของการออกแบบ ดังนั้นลูกค้าสามารถปรับแก้การออกแบบตามความต้องการได้ในช่วงการดำเนินการ